นักลงทุนทั้งรายใหญ่และรายย่อยต่างให้ความสนใจกับบริษัทต่าง ๆ ที่เตรียมตัวเข้าสู่การเป็นหุ้น IPO เพราะบริษัทนั้นสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพการเติบโต การบริหารงาน ซึ่งรวมไปถึงราคาที่อาจจะพุ่งขึ้นสูงในอนาคต ซึ่งในบทความนี้ เราเอาขั้นตอนการพิจารณาเอาบริษัทนั้น ๆ เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ หรือเข้าเป็นหุ้น IPO นั่นเอง
หุ้น IPO คืออะไร?
หุ้น IPO (Initial Public Offering) คือ หุ้นที่มีการซื้อขายเป็นครั้งแรกให้กับประชาชนโดยทั่วไปเพื่อที่จะมาจดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ จะมีข้อกำหนดพื้นฐานถึงคุณสมบัติของบริษัทที่ต้องการเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ประกอบไปด้วย
สำหรับตลาด SET
ทุนจดทะเบียนหุ้นหลังชำระแล้วต้องมีมูลค่ามากกว่า 300 ล้านบาท
ดำเนินธุรกิจมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 ปี มีกำไรสุทธิ 2 หรือ 3 ปีล่าสุดรวมกันมากกว่า 50 ล้านบาท
มีกำไรสุทธิปีล่าสุด (นับปีปฏิธินที่เข้าตลาดหลักทรัพย์) มากกว่า 30 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิสะสมในงวดปัจจุบัน หรือมี Market Cap มากกว่า 7,500 ล้านบาท
สำหรับตลาด MAI
ทุนจดทะเบียนหุ้นหลังชำระแล้วต้องมีมูลค่ามากกว่า 50 ล้านบาท
ดำเนินธุรกิจมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 ปี มีกำไรสุทธิ ปีล่าสุดมากกว่า 10 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิสะสมในงวดปัจจุบัน
นอกจากเรื่องงบประมาณและกำไร ยังต้องผ่านเกณฑ์ต่าง ๆ ในด้านการบริหารงานอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้ มีผู้บริหารและกรรมการที่มีศักยภาพ ระบบการบริหารที่ดี และงบการเงินเป็นไปตามมาตรฐานทางบัญชี
ซึ่งการที่บริษัทดังกล่าวจะสามารถ ยื่นคำขอเข้าตลาดได้นั้น จะต้องถูกตรวจสอบจากตลาดหลักทรัพย์ก่อนอีกครั้ง ซึ่งจะต้องมีการสัมภาษณ์ กรรมการ ผู้บริหาร ผู้ที่ทำการตรวจสอบกิจการ ตรวจสอบบัญชี รวมไปถึงการเข้าเยี่ยมชมกิจการดังกล่าวอีกด้วย ซึ่งมีระยะเวลาในการอนุมัติภายใน 165 วัน
Comments (No)