ตลาดหมีแบบนี้ ลงทุนอย่างไรดีนะ?

ในช่วงที่ผ่านมาหลายเดือน ทั้งตลาดหุ้นและตลาดคริปโตฯ เองก็เจอกับความถดถอยเป็นอย่างมาก ส่งผลให้นักลงทุนทั้งหน้าใหม่และหน้าเก่าต้องปรับกลยุทธ์ปรับพอร์ทกันแทบจะวันเว้นวัน หาวิธีต่าง ๆ ที่จะอยู่รอดในเส้นทางนักลงทุนกันอย่างต่อเนื่อง แต่อย่าพึ่งตกใจไปมีลงก็ต้องมีขึ้นเพราะการลงทุนนั้นบางครั้งก็ต้องอาศัยหนึ่งสิ่งที่สำคัญนั่นก็คือ สติ วันนี้เราจะมีวิธีการเบื้องต้น ในการอยู่ในตลาดหมีให้เจ็บตัวน้อยที่สุดหรือไม่เจ็บตัวเลยมาแนะนำกัน

 

ตลาดหมีคืออะไร?

ตลาดหมี ไม่ใช่ตลาดซื้อขายสัตว์ป่าแต่อย่างใด แต่เป็นช่วงเวลาที่ตลาดโดยรวมอยู่ในขาลงอย่างหนัก เหมือนกับหมีที่ดุร้าย กระโจนใส่คุณและพร้อมจะใช้อุ้งมือและเขี้ยวเล็บทุบคุณอย่างบ้าคลั่ง สำหรับวงการ ๆ ลงทุนเมื่อตลาดหุ้นปรับลดลง 20% จากจุดสูงสุดล่าสุด และยังใช้อ้างถึงดัชนีหุ้นหรือหุ้นแต่ละตัวที่ลดลง 20% หรือมากกว่านั้นจากจุดสูงสุดล่าสุดด้วย

 

อะไรทำให้เกิดตลาดหมี?

ปัจจัยที่ส่งผลกระทบที่สุดในภาคส่วนธุรกิจทุกแห่งบนโลกนี้คือข่าว และข่าวที่นำมาซึ่งความกลัว สิ่งนี้เองทำให้เกิดการยักย้ายทรัพย์สินที่มีค่าไปไว้กับแหล่งลงทุนอื่น ๆ เช่นทองคำเพราะมีความปลอดภัยและผันผวนน้อยกว่าหุ้นและ คริปโตฯ เป็นอย่างมาก เราจะเห็นได้ชัดมาก ๆ จากเหตุการณ์การแพร่ระบาดของ โควิด-19 

 

ขาดทุนไม่เป็นไร แต่อย่าขาดใจไปเสียก่อน

ชีวิตยังมีพรุ่งนี้เสมอ แต่วันนี้ทำใจดี ๆ เอาไว้สำหรับนักลงทุนหน้าใหม่ ขาดทุนเพียงหลักพันบาทก็อาจจะนำไปสู่การเสียสติได้แล้ว แต่ในเมื่อมีลง มันก็ย่อมต้องมีขึ้นลองใช้สติจัดสรรพอร์ตการลงทุนดูใหม่ อันไหนไม่เข้าใจ หรือรู้สึกได้ถึงความเสี่ยงสูง ก็ควรจะลงทุนอย่างรอบคอบ ใช้สติก่อนคลิกซื้อขายให้มากขึ้น

 

รู้และยอมรับว่าตัวเองเสี่ยงได้มากแค่ไหน

หลายคนน่าจะเคยทำแบบสอบถามการรับความเสี่ยงของโบรคเกอร์ต่าง ๆ ที่คุณได้เปิดบัญชี เมื่ออยู่ในวงการไปนาน ๆ คุณเองอาจจะลืมว่าคุณรับความเสี่ยงได้ไม่มากขนาดนี้ คุณจึงควรประเมิณเงินทุนและทรัพย์สินที่มีแล้วกลับไปลองทำแบบทดสอบใหม่ดูอีกครั้ง เพื่ออัพเดทว่าในปัจจุบันนี้คุณยังสามารถรับความเสี่ยงในระดับเดิมได้อยู่หรือไม่

 

ลงทุนให้หลากหลาย กระจายความเสี่ยง

สิ่งนี้แม้ตลาดจะไม่เป็นขาลง คุณก็ควรจะจัดสรรการลงทุนให้หลากหลาย เพราะเมื่อภัยมาถึงตัว คุณก็จะยังมีทางรอดเพราะคุณได้กระจายความเสี่ยงไปยังสินทรัพย์ที่แตกต่างประเภทกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 

อารมณ์เป็นสิ่งชั่วคราว

แน่นอนว่านักลงทุนส่วนใหญ่ ใช้อารมณ์ตัดสินใจ จึงขาดการวางแผนที่ดีก่อนการลงทุน แม้กระทั่งเซียนหุ้นเองในบางครั้งก็ยอมรับว่าตัดสินใจผิดพลาดเพราะให้อารมณ์พาไป ก่อนจะลงทุน คุณจึงควรมีแผนการที่ดีและรอบคอบ ทั้งในระยะยาวและระยะสั้น เพื่อให้รู้เท่าทันสิ่งที่คุณกำลังจะตัดสินใจทำนั่นเอง