การวัดค่า ROI ของ Influencer Marketing (part 4)

แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดสำหรับการวัด ROI ของแคมเปญ Influencer

เพื่อให้กลยุทธ์ การตลาด ที่ใช้ อินฟลูเอนเซอร์ ประสบความสำเร็จ ต้องมีการกำหนดมาตรฐานและกำหนดเป้าหมาย ROI ที่สมเหตุสมผล หากไม่มีเกณฑ์มาตรฐานและวัตถุประสงค์เฉพาะ อาจเป็นเรื่องยากที่จะวัดประสิทธิภาพขอ งแคมเปญ และประเมินผลกระทบต่อ ธุรกิจ หรือ แบรนด์ ได้

ธุรกิจ หรือ แบรนด์ ต่างๆ ควรตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังก่อนเพื่อกำหนดค่า ROI ทั่วไปของ แคมเปญ ก่อนหน้าก่อนที่จะกำหนดเกณฑ์มาตรฐาน นอกจากนี้ พวกเขายังสามารถค้นหาเกณฑ์มาตรฐานของอุตสาหกรรมและดูว่าพวกเขาจะสามารถแข่งขันกับคู่แข่งได้อย่างไร เมื่อกำหนดเกณฑ์มาตรฐานแล้ว ธุรกิจ หรือ แบรนด์ ต่างๆ สามารถตั้งวัตถุประสงค์ที่บรรลุได้สำหรับ แคมเปญ ที่กำลังจะมาถึง

หลังจาก แคมเปญ ถูกดำเนินการแล้ว สิ่งสำคัญคือต้องติดตามและวิเคราะห์เมตริก ROI ที่กล่าวถึงก่อนหน้านี้ สิ่งนี้สามารถช่วยให้ แบรนด์ สามารถเพิ่มประสิทธิภาพ แคมเปญ เพื่อประสิทธิภาพที่ดีขึ้น ตัวอย่างเช่น หาก แคมเปญ ไม่บรรลุ ROI ที่ต้องการ ธุรกิจ หรือ แบรนด์อาจต้องปรับการเลือกใช้ อินฟลุเอนเซอร์ เปลี่ยนกลยุทธ์ คอนเทนต์ หรือการกำหนดเป้าหมายใหม่

การเพิ่มประสิทธิภาพนั้นเกี่ยวข้องกับการเลือกใช้ อินฟลูเอนเซอร์ ที่มีผู้ติดตามสูงและมีอัตราการมีส่วนร่วมสูง ทาง แบรนด์ ควรพิจารณาการทำงานร่วมกับไมโครอินฟลูเอนเซอร์ที่มีผู้ติดตามน้อย แต่มักจะให้อัตราการมีส่วนร่วมที่ดีกว่าโดยสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้และสร้าง รายได้ รวมถึงการ สร้างรายได้ออนไลน์ ที่มากกว่าเดิม

การปรับกลยุทธ์ด้าน คอนเทนต์ อาจเกี่ยวข้องกับการสร้างเนื้อหาที่เป็นส่วนตัวมากขึ้นซึ่งสอดคล้องกับผู้ชมหรือ ผู้ติดตาม ซึ่งอาจรวมถึงการสร้างเนื้อหาวิดีโอ การแจกของรางวัล การแข่งขัน การแสดงคำวิจารณ์หรือข้อความรับรองจากผู้ทรงอิทธิพล

การปรับการกำหนดเป้าหมายอาจเกี่ยวข้องกับการปรับแต่งกลุ่มผู้ชม หรือ ผู้ติดตาม ตามข้อมูลเชิงประสิทธิภาพของ แคมเปญ ซึ่ง แบรนด์ ต่างๆ สามารถใช้เครื่องมือวิเคราะห์ โซเชียลมีเดีย เพื่อติดตามข้อมูลประชากรและพฤติกรรมของผู้ชม หรือ ผู้ติดตาม และตัดสินใจโดยใช้ข้อมูลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการกำหนดเป้าหมาย

โดยรวมแล้ว โดยการสร้างเกณฑ์มาตรฐาน กำหนดเป้าหมายที่เป็นจริง และเพิ่มประสิทธิภาพ แคมเปญ ตามข้อมูลเชิงลึกของ ROI ทำให้ แบรนด์ สามารถมั่นใจได้ว่า แคมเปญ การตลาด ที่ใช้ อินฟลูเอนเซอร์ ของพวกเขาจะประสบความสำเร็จและสร้าง รายได้ ที่ดีจากการลงทุน

  • 5 ความสำคัญของการตรวจสอบข้อมูลอย่างต่อเนื่องและการเพิ่มประสิทธิภาพค่า ROI สูงสุด

1. การติดตามประสิทธิภาพ

– การตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอทำให้ แบรนด์ สามารถติดตามประสิทธิภาพของแคมเปญผู้มีอิทธิพลได้แบบเรียลไทม์ ซึ่งช่วยให้สามารถระบุปัญหาหรือความคลาดเคลื่อนได้ตั้งแต่เนิ่นๆ และดำเนินการแก้ไขอย่างทันท่วงที ด้วยการจับตาดูประสิทธิภาพของแคมเปญอย่างใกล้ชิด แบรนด์ต่างๆ สามารถมั่นใจได้ว่าพวกเขากำลังติดตามเพื่อบรรลุเป้าหมาย ROI เพื่อสร้าง รายได้ ตามที่คาดหวัง

2. การตัดสินใจที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล

– การติดตามข้อมูลและข้อมูลเชิงลึกที่มีค่าแก่ แบรนด์ ต่างๆ สามารถช่วยตัดสินใจได้ เนื่อ
จากการขับเคลื่อนด้วยข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูลที่รวบรวมจากเมตริกต่างๆ ทำให้ แบรนด์ ทราบข้อมูลเชิงลึกต่างๆ ได้แก่ อินฟลูเอนเซอร์ ประเภทคอนเทนต์ แพลตฟอร์ม หรือกลยุทธ์ใดที่ทำงานได้ดีและขับเคลื่อนผลลัพธ์ที่ต้องการ ซึ่งช่วยให้ แบรนด์ สามารถเพิ่มประสิทธิภาพองค์ประกอบ แคมเปญ ของตนตามข้อมูลประสิทธิภาพจริง แทนที่จะใช้สมมติฐานหรือการคาดเดา

3. โอกาสในการเพิ่มประสิทธิภาพ

– การตรวจสอบข้อมูลอย่างสม่ำเสมอยังช่วยระบุโอกาสในการเพิ่มประสิทธิภาพเพื่อปรับปรุง แคมเปญ ตัวอย่างเช่น หาก อินฟลูเอนเซอร์ บางคนไม่ได้ผลลัพธ์ตามที่คาดหวัง แบรนด์ ต่างๆ สามารถพิจารณาปรับเกณฑ์การคัดเลือก อินฟลูเอนเซอร์ ของตนใหม่ได้ และหาก คอนเทนต์ หรือ แพลตฟอร์ม ประเภทใดประเภทหนึ่งไม่ตรงใจกลุ่มเป้าหมาย แบรนด์ สามารถทดลองรูปแบบ คอนเทนต์ หรือ แพลตฟอร์ม ต่างๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการมีส่วนร่วมและคอนเวอร์ชั่นได้

4. การเพิ่มประสิทธิภาพงบประมาณ

– การตรวจสอบข้อมูลอย่างต่อเนื่องสามารถช่วย แบรนด์ ต่างๆ สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการจัดสรรงบประมาณได้ ด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงประสิทธิภาพ แบรนด์ ต่างๆ สามารถระบุได้ว่า อินฟลูเอนเซอร์ หรือ แพลตฟอร์ม ใดที่สร้างค่า ROI ได้ดีที่สุด และจัดสรรงบประมาณมากขึ้นสำหรับพื้นที่เหล่านั้น สิ่งนี้ทำให้มั่นใจได้ว่างบประมาณจะถูกใช้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อขับเคลื่อนผลลัพธ์สูงสุด และลดการใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นในองค์ประกอบที่มีประสิทธิภาพต่ำ เพื่อให้ แบรนด์ สามารถสร้าง รายได้ รวมถึงการ สร้างรายได้ออนไลน์ ได้มากขึ้น

5. ปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลง

– ภูมิทัศน์ของ โซเชียลมีเดีย มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และ การตลาด ที่ใช้ อินฟลูเอนเซอร์ ก็ไม่มีข้อยกเว้น ด้วยการติดตามประสิทธิภาพของ แคมเปญ อินฟลูเอนเซอร์ อย่างต่อเนื่อง ทาง แบรนด์ สามารถปรับให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรม พฤติกรรมผู้บริโภค หรืออัลกอริทึมของ แพลตฟอร์ม สิ่งนี้ช่วยให้พวกเขามีความเกี่ยวข้องกับการปรับกลยุทธ์ และการเพิ่มประสิทธิภาพ แคมเปญ เพื่อเพิ่มค่า ROI สูงสุดในแนวทาง การตลาด ที่ใช้ อินฟลูเอนเซอร์ ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

โดยสรุปแล้ว การตรวจสอบข้อมูลและการเพิ่มประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่องมีความสำคัญต่อการเพิ่มค่า ROI สูงสุดเมื่อเวลาผ่านไปใน แคมเปญ การตลาด ที่ใช้ อินฟลูเอนเซอร์ ด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง ตัดสินใจจากข้อมูล ระบุโอกาสในการเพิ่มประสิทธิภาพ จัดสรรงบประมาณให้เหมาะสม และปรับให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลง ทำให้ แบรนด์ ต่างๆ สามารถมั่นใจได้ว่า แคมเปญ ของพวกเขาทำงานได้ดีที่สุดและให้ผลลัพธ์หรือการสร้าง รายได้ รวมถึง สร้างรายได้ออนไลน์ ได้ตามต้องการ

AFbrother คือตัวเลือกที่สำคัญสำหรับการตลาดที่ใช้อินฟลูเอนเซอร์ เนื่องจากแพลตฟอร์ม AFbrother ถูกสร้างมาเพื่อเป็นตัวกลางระหว่าง อินฟลูเอนเซอร์และแบรนด์หรือนักการตลาด เพื่อติดต่อโปรโมทสินค้าหรือบริการผ่านโซเชียลมีเดียได้อย่างง่ายดายและตรงเป้าหมาย ผู้ใช้งานแพลตฟอร์ม AFbrother สามารถ สร้างรายได้ออนไลน์ ได้โดยไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง

เพื่อไม่ให้พลาดข่าวสารและกิจกรรมสุดพิเศษ​ โปรดติดตาม AFbrother

AFbrother Website: https://afbrother.com/
AFbrother Twitter: https://twitter.com/AFBrotherGlobal
AFbrother Facebook: https://www.facebook.com/AFBrotherGlobal
AFbrother Youtube: https://www.youtube.com/channel/UC3jBh06fWzFfJIilW63NmWg
AFbrother Line Official : https://lin.ee/tPcWzsW

Comments (No)

Leave a Reply