การวัดค่า ROI ของ Influencer Marketing

การตลาด ที่ใช้ อินฟลูเอนเซอร์ เป็นกลยุทธ์ทาง การตลาด ประเภทหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับการเป็นพันธมิตรกับอินฟลูเอนเซอร์ ใน โซเชียลมีเดีย เพื่อ โปรโมท ชื่อ แบรนด์, สินค้า หรือ บริการ ซึ่งเป็นเทคนิคที่มีประสิทธิภาพมากสำหรับ แบรนด์ ในการเชื่อมต่อกับผู้บริโภคที่กว้างขึ้นและเฉพาะเจาะจงมากขึ้น และเพื่อการประเมินประสิทธิภาพพร้อมตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้รับผลตอบแทนหรือ รายได้ จากการลงทุนสูงสุด (ROI) การวัดค่า ROI สามารถช่วย แบรนด์ ต่างๆ ให้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพ แคมเปญ โดยจะมีการระบุจุดที่ทาง แบรนด์ ต้องปรับปรุง และแสดงผลลัพธ์ที่ดีขึ้นในท้ายที่สุดจากความพยายามทาง การตลาด โดยใช้ อินฟลูเอนเซอร์

ROI คืออะไร ?

ROI ย่อมาจาก “Return on Investment” ซึ่งเป็นเมตริกที่ใช้ในการวัดประสิทธิภาพและความสามารถในการ สร้างรายได้ออนไลน์ หรือ การสร้าง รายได้ จากการลงทุน โดยทั่วไปจะคำนวณด้วยการหารกำไรสุทธิที่เกิดจากการ ลงทุน กับต้นทุนของการ ลงทุน กล่าวอีกนัยหนึ่ง ROI เป็นวิธีการวัดจำนวนเงินที่ แบรนด์ ทำได้ (หรือเสียไป) โดยสัมพันธ์กับจำนวนเงินที่ทาง แบรนด์ ลงทุน

ตัวอย่างเช่น หากคุณ ลงทุน $10,000 ใน แคมเปญ การตลาดแ ละสร้าง รายได้ ทั้งหมด $15,000 กำไรสุทธิของคุณจะเท่ากับ $5,000 ในการคำนวณ ROI ของคุณ คุณต้องหาร $5,000 ด้วย $10,000 ซึ่งจะให้ ค่า ROI เท่ากับ 50% เป็นต้น

ROI เป็นเมตริกที่สำคัญสำหรับ ธุรกิจ เนื่องจากช่วยให้ แบรนด์ ต่างๆ สามารถพิจารณาได้ว่าการ ลงทุน ของพวกเขาสร้าง รายได้ ที่ดีหรือไม่ ด้วยการวัดค่า ROI ทำให้ ธุรกิจ หรือ แบรนด์ ต่างๆ สามารถตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาดมากขึ้นเกี่ยวกับการจัดสรรทรัพยากรของพวกเขา และช่วยให้พวกเขาสามารถทำนายได้ว่าการ ลงทุน ใดที่คุ้มค่าต่อการดำเนินการหรือขยายเพิ่มเติม เป็นต้น สำหรับในบริบทของ การตลาด ที่ใช้ อินฟลูเอนเซอร์ การวัดค่า ROI ของ แคมเปญ สามารถช่วยให้ ธุรกิจ หรือ แบรนด์ ต่างๆ สามารถพิจารณาประสิทธิภาพทาง การตลาด ด้วยอินฟลูเอนเซอร์ และทำการปรับเปลี่ยนเพื่อปรับปรุงผลตอบแทนจากการ ลงทุน เพื่อ สร้างรายได้ออนไลน์

  • 6 ประโยชน์ของการวัดค่า ROI ของ Influencer Marketing

1. เพิ่มประสิทธิผลของแคมเปญ

– การวัดค่า ROI ของ การตลาด ที่ใช้ อินฟลูเอนเซอร์ ช่วยให้ แบรนด์ ได้รับข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับประสิทธิภาพของ แคมเปญ ของพวกเขา ด้วยการติดตามและวิเคราะห์แบบเมตริกที่เกี่ยวข้อง เช่น อัตราการมีส่วนร่วม, การเข้าถึง, คอนเวอร์ชั่น และการขาย สิ่งเหล่านี้ช่วยให้ แบรนด์ สามารถประเมินว่า แคมเปญ อินฟลูเอนเซอร์ ของพวกเขาทำงานได้ดีเพียงใด ข้อมูลนี้สามารถช่วยให้พวกเขาระบุได้ว่าสิ่งใดใช้ได้ผลและสิ่งใดต้องปรับปรุง ทำให้ ธุรกิจ หรือ แบรนด์ สามารถตัดสินใจจากข้อมูล ROI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ แคมเปญ ในอนาคตได้

2. อำนวยความสะดวกในการจัดสรรทรัพยากร

– การวัดค่า ROI ช่วยให้ แบรนด์ สามารถจัดสรรทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อเข้าใจถึง รายได้ หรือผลตอบแทนที่พวกเขาได้รับจากการทำ การตลาด โดยใช้ อินฟลูเอนเซอร์ ผ่าน โซเชียลมีเดีย ทำให้ แบรนด์ต่างๆ สามารถระบุได้ว่า แคมเปญ อินฟลูเอนเซอร์ หรือ แพลตฟอร์ม ใดที่ให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด สิ่งนี้สามารถแจ้งการตัดสินใจว่าจะจัดสรรงบประมาณ เวลา และความพยายามเพิ่มเติมเพื่อให้ได้ผลลัพธ์สูงสุดในการ สร้างรายได้ออนไลน์

3. เพิ่มความคุ้มค่า

– แคมเปญ การตลาด ที่ใช้ อินฟลูเอนเซอร์ เป็น การลงทุน ที่สำคัญสำหรับ ธุรกิจ หรือ แบรนด์ เนื่องจากการวัดค่า ROI สามารถช่วยประเมินความคุ้มค่าได้ เมื่อเปรียบเทียบต้นทุนของการทำงานร่วมกันกับ อินฟลูเอนเซอร์ กับผลลัพธ์ที่พวกเขาสร้างขึ้น แบรนด์ ต่างๆ จะสามารถประเมินประสิทธิภาพของการใช้จ่ายได้ สิ่งนี้สามารถช่วยให้พวกเขาปรับปรุงต้นทุนให้เหมาะสมได้ และจัดสรรทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นเพื่อสร้างผลตอบแทน หรือ รายได้ ที่สูงขึ้น

4. การตัดสินใจที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล

– การวัดค่า ROI ของ การตลาด แบบ อินฟลูเอนเซอร์ ทำให้ แบรนด์ ต่างๆ สามารถตัดสินใจโดยใช้ข้อมูลเป็นหลัก แทนที่จะใช้สมมติฐานหรือความคิดเห็นส่วนตัวเพียงอย่างเดียว ด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณ ทำให้ แบรนด์ ต่างๆ ได้รับข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับประสิทธิภาพของ แคมเปญ ระบุแนวโน้ม และค้นพบโอกาสในการปรับปรุง ซึ่งอาจส่งผลให้มีการตัดสินใจอย่างชาญฉลาดและมีกลยุทธ์มากขึ้นเกี่ยวกับการเป็นพันธมิตรกับ อินฟลูเอนเซอร์ เพื่อปรับปรุงกลยุทธ์ของ แคมเปญ และเพิ่มความสามารถทาง การตลาด โดยรวม

5. การเปรียบเทียบประสิทธิภาพ

– การวัดค่า ROI ของ การตลาด แบบ อินฟลูเอนเซอร์ ทำให้ แบรนด์ ต่างๆ สามารถสร้างเกณฑ์มาตรฐานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของ แคมเปญ ของตนได้ ด้วยการติดตามและเปรียบเทียบประสิทธิภาพของ แคมเปญ ต่างๆ หรือ อินฟลูเอนเซอร์ โดย แบรนด์ ต่างๆ สามารถระบุแนวโน้มและรูปแบบ แคมเปญ ในอนาคตได้ สิ่งนี้ช่วยให้ แบรนด์ ต่างๆ สามารถกำหนดความคาดหวังที่เป็นจริง วัดความคืบหน้า และปรับปรุงกลยุทธ์ การตลาด โดยใช้ อินฟลูเอนเซอร์ อย่างต่อเนื่อง

6. ความรับผิดชอบและการรายงาน

– การวัดค่า ROI ทำให้ แบรนด์ มีวิธีในการแสดงประสิทธิภาพทาง การตลาด ที่มีอิทธิพลต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เช่น ผู้บริหารระดับสูง นักลงทุน หรือลูกค้า ด้วยการนำเสนอผลลัพธ์จากข้อมูล ทำให้ แบรนด์ สามารถแสดงคุณค่าและผลกระทบของ แคมเปญ ได้ ซึ่งสามารถช่วยปรับปรุง การลงทุน และได้รับการสนับสนุนสำหรับการริเริ่มในอนาคต

(โปรดติดตามพาร์ทถัดไป)

AFbrother คือตัวเลือกที่สำคัญสำหรับการตลาดที่ใช้อินฟลูเอนเซอร์ เนื่องจากแพลตฟอร์ม AFbrother ถูกสร้างมาเพื่อเป็นตัวกลางระหว่าง อินฟลูเอนเซอร์และแบรนด์หรือนักการตลาด เพื่อติดต่อโปรโมทสินค้าหรือบริการผ่านโซเชียลมีเดียได้อย่างง่ายดายและตรงเป้าหมาย ผู้ใช้งานแพลตฟอร์ม AFbrother สามารถ สร้างรายได้ออนไลน์ ได้โดยไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง

เพื่อไม่ให้พลาดข่าวสารและกิจกรรมสุดพิเศษ​ โปรดติดตาม AFbrother

AFbrother Website: https://afbrother.com/
AFbrother Twitter: https://twitter.com/AFBrotherGlobal
AFbrother Facebook: https://www.facebook.com/AFBrotherGlobal
AFbrother Youtube: https://www.youtube.com/channel/UC3jBh06fWzFfJIilW63NmWg
AFbrother Line Official : https://lin.ee/tPcWzsW

Comments (No)

Leave a Reply